แนะนำประเทศอียิปต์
ภูมิประเทศของอียิปต์

1. เขตที่ราบสูง เป็นความกว้างเกือบทั้งหมดของทวีป มีลักษณะเป็นที่ราบสูง โดยทางภาคตะวันออกและภาคใต้มีระดับสูงสุด คือ มีความสูงอยู่ในช่วง 1,500 – 2,000 เมตร แล้วพื้นที่ลาดไปทางภาคเหนือและภาคตะวันตก ซึ่งมีความสูงอยู่ในช่วง 300 – 1,000 เมตร โดยมีขอบสูงชันอยู่ใกล้ชายฝั่ง ลักษณะพื้นผิวของที่ราบสูงมีทั้งเนินเขาลูกคลื่น และแอ่งที่ราบลุ่ม
2.เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีที่ราบลุ่มแม่น้ำ 4 แห่ง คือ
2.1 ที่ราบลุ่มแม่น้ำไนล์ เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในทวีปแอฟริกา มีความยาว 6,500 กิโลเมตร
2.2 ที่ราบลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ อยู่ทางด้านตะวันตกของทวีป มีความยาว 4,200 กิโลเมตร
2.3 ที่ราบลุ่มแม่น้ำแซมเบซี อยู่ทางภาคใต้เกิดที่ประเทศแองโกลาและแซมเบีย ลงสู่มหาสมุทรอินเดียที่โมซัมบิก บริเวณประเทศซิมบับเว มีแม่น้ำนี้ไหลผ่านเกิดน้ำตกที่มีความสวยงามมีชื่อว่า “น้ำตกวิกตอเรีย”
2.4 ที่ราบลุ่มแม่น้ำคองโก อยู่ในประเทศซาอีร์และคองโก ตามลำน้ำจะเป็นเกาะแก่งต่างๆและยังมีน้ำตกอยู่มากมาย
2.1 ที่ราบลุ่มแม่น้ำไนล์ เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในทวีปแอฟริกา มีความยาว 6,500 กิโลเมตร
2.2 ที่ราบลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ อยู่ทางด้านตะวันตกของทวีป มีความยาว 4,200 กิโลเมตร
2.3 ที่ราบลุ่มแม่น้ำแซมเบซี อยู่ทางภาคใต้เกิดที่ประเทศแองโกลาและแซมเบีย ลงสู่มหาสมุทรอินเดียที่โมซัมบิก บริเวณประเทศซิมบับเว มีแม่น้ำนี้ไหลผ่านเกิดน้ำตกที่มีความสวยงามมีชื่อว่า “น้ำตกวิกตอเรีย”
2.4 ที่ราบลุ่มแม่น้ำคองโก อยู่ในประเทศซาอีร์และคองโก ตามลำน้ำจะเป็นเกาะแก่งต่างๆและยังมีน้ำตกอยู่มากมาย
3. เขตหุบเขาทรุด อยู่ทางทิศตะวันออกของทวีป เกิดจากการทรุดตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดหุบเขาลึก มีหน้าผาสูงชัน กลายเป็นทะเลสาบต่อสาบต่อเนื่องกันเป็นแนวยาวจากใต้จรดเหนือ
4. เขตเทือกเขา ในทวีปแอฟริกามีเขตเทือกเขาอยู่ 3 บริเวณ คือ
4.1 ทางภาคตะวันออก มีความสูงมาก ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูงที่มีภูเขาอยู่เป็นแห่งๆที่ราบสูงในบริเวณนี้ก็คือที่ราบสูงเอธิโอเปีย และที่ราบสูงแอฟริกาตะวันออก ส่วนภูเขาคือภูเขาคิลิมานจาโรอยู่ในแทนซาเนีย สูงที่สุดในแอฟริกา
4.2 ทางภาคใต้ เป็นที่ราบสูงที่เป็นหินแกรนิตอยู่ระหว่างแม่น้ำวาลและลิมโปโป เรียกที่ราบสูงนี้ว่า วิตวอเตอร์สแรนด์ เป็นแหล่งผลิตแร่ทองคำของโลก ในบริเวณนี้มีเทือกเขาดราเกนสเบอร์กเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุด
4.3 ทางตะวันตกเฉียงเหนือ วางตัวในแนวตะวันตก – ตะวันออกขนานไปกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ครอบคลุมพื้นที่โมรอกโก แอลจีเรีย และตูเนียเซีย ได้แก่ เทือกเขาแอตลาส โดยมียอดเขาชื่อทูบคาลอยู่ในโมร็อกโก
4.1 ทางภาคตะวันออก มีความสูงมาก ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูงที่มีภูเขาอยู่เป็นแห่งๆที่ราบสูงในบริเวณนี้ก็คือที่ราบสูงเอธิโอเปีย และที่ราบสูงแอฟริกาตะวันออก ส่วนภูเขาคือภูเขาคิลิมานจาโรอยู่ในแทนซาเนีย สูงที่สุดในแอฟริกา
4.2 ทางภาคใต้ เป็นที่ราบสูงที่เป็นหินแกรนิตอยู่ระหว่างแม่น้ำวาลและลิมโปโป เรียกที่ราบสูงนี้ว่า วิตวอเตอร์สแรนด์ เป็นแหล่งผลิตแร่ทองคำของโลก ในบริเวณนี้มีเทือกเขาดราเกนสเบอร์กเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุด
4.3 ทางตะวันตกเฉียงเหนือ วางตัวในแนวตะวันตก – ตะวันออกขนานไปกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ครอบคลุมพื้นที่โมรอกโก แอลจีเรีย และตูเนียเซีย ได้แก่ เทือกเขาแอตลาส โดยมียอดเขาชื่อทูบคาลอยู่ในโมร็อกโก
ธงประจำชาติ

ธงชาติอียิปต์ (อาหรับ: علم مصر) เป็นธงสามสีซึ่งประกอบด้วยแถบสีแนวนอนขนาดเท่ากันสามแถบ เรียงลำดับเป็นสีแดง สีขาว และสีดำ จากบนลงล่าง สีทั้งสามนี้เป็นสีที่มาจากธงขบวนการปลดแอกอาหรับ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาย้อนหลังไปถึงเหตุการณ์การปฏิวัติในอียิปต์เมื่อปี ค.ศ. 1952ในธงดังกล่าวได้บรรจุรูปสัญลักษณ์นกอินทรีแห่งซาลาดิน อันเป็นรูปตราแผ่นดินของอียิปต์ ไว้ที่กลางแถบสีขาว
ดอกไม้ประจำชาติ

ดอกบัวของอียิปต์ มีลักษณะคล้ายกับดอกบัวบ้านเราหรือบัวหลวงอินเดีย แต่ลักษณะดอกจะเรียวยาวกลีบใหญ่ และในตอนกลางคืนจะหุบดอก บ้านเราเรียกดอกบัวประเภทนี้ว่า บัวจงกลนี บัวผัน หรือบัวสาย หลายคนอาจสงสัยว่า บัวที่ใช้ว่า Lotus กับ Water Lily ต่างกันอย่างไร ถ้าเป็น Lotus จะเป็นบัวก้านแข็งค่ะแต่ถ้าเป็น Water Lily เราจะสามารถเอาด้านดอกมารับประทานกันได้นั่นเอง
ภาษาอียิปต์


ชาวอียิปต์โบราณมีอักษรของตนเอง ซึ่งเรียกว่าอักษร ฮีโรกลีฟิค (Hieroglyphic) ซึ่งคำว่า ฮีโรกลีฟิคนี้ เป็นชื่อที่ชาวกรีกเรียกเครื่องหมายราณที่ปรากฏอยู่ตามโบราณสถาน สุสาน หีบศพ และตามรูปแกะสลักต่างๆ
ความหมายของคำนี้คือ “อักษรศักดิ์สิทธิ์” ทั้งนี้ก็เพราะในสมัยที่ชาวกรีกติดต่อสัมพันธ์กับชาวอียิปต์นั้น ชาวอียิปต์นี้ใช้อักษรชนิดนี้สำหรับบันทึกเรื่องราวทางศาสนาและพิธีกรรมต่างๆ
ในตอนแรกเวลาชาวอียิปต์จะเขียนหรือแกะสลักภาษาฮีโรกลีฟิคบน กระดาษปาปิรุส หรือบนผนังหินในสุสาน พวกเขาก็จะพยายามแกะสลักรูปภาพต่างๆ อย่างประณีตบรรจง เพราะนอกจากจะได้เนื้อความทางภาษาแล้ว ภาษาของพวกเขายังดูสวยงามใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งไปด้วยในตัว แต่ในระยะหลังเมื่อพวกเขามีความเป็นอยู่และวิถีชีวอตที่วุ่นวายซับซ้อนมากขึ้น พวกเขาก็ไม่มีเวลาที่จะมานั่งประดิดประดอยภาษารูปภาพของตนให้สวยงามดังแต่ก่อน
ภาษานี้ยังมีใช้พูดกันอยู่ในบรรดาชาวคริสเตียน ที่สืบเชื้อสายมาจากชาวอียิปต์โบราณ ภาษาคอปติค มีบทบาทสำคัญมาก ในการแปลภาษาอียิปต์โบราณ และจากการที่มีภาษาใช้เป็นของตนเองนี้เอง ที่ทำให้เราสามารถทราบประวัติศาสตร์อันน่าสนใจของชาวอียิปต์โบราณได้ เพราะชาวอียิปต์เป็นผู้ที่ชอบจารึกเรื่องราวของตนเอง
ประวัติศาสตร์ของอียิปต์
อียิปต์โบราณ หรือ ไอยคุปต์ เป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงปากแม่น้ำไนล์ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศอียิปต์ อารยธรรมอียิปต์โบราณเริ่มขึ้นประมาณ 3150 ปีก่อนคริตศักราช โดยการรวมอำนาจทางการเมืองของอียิปต์ตอนเหนือและตอนใต้ ภายใต้ฟาโรห์องค์แรกแห่งอียิปต์ และมีการพัฒนาอารยธรรมเรื่อยมากว่า 3,000 ปี ประวัติของอียิปต์โบราณปรากฏขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือที่รู้จักกันว่า "ราชอาณาจักร" มีการแบ่งยุคสมัยของอียิปต์โบราณเป็นราชอาณาจักร ส่วนมากแบ่งตามราชวงศ์ที่ขึ้นมาปกครอง จนกระทั่งราชอาณาจักรสุดท้าย หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า "ราชอาณาจักรใหม่" อารยธรรมอียิปต์อยู่ในช่วงที่มีการพัฒนาที่น้อยมาก และส่วนมากลดลง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่อียิปต์พ่ายแพ้ต่อการทำสงครามจากอำนาจของชาติอื่น จนกระทั่งเมื่อ 31 ปีก่อนคริตศักราชก็เป็นการสิ้นสุดอารยธรรมอียิปต์โบราณลง เมื่อจักรวรรดิโรมันสามารถเอาชนะอียิปต์ และจัดอียิปต์เป็นเพียงจังหวัดหนึ่งในจักรวรรดิโรมัน


อารยธรรมอียิปต์พัฒนาการมาจากสภาพของลุ่มแม่น้ำไนล์ การควบคุมระบบชลประทาน, การควบคุมการผลิตพืชผลทางการเกษตร พร้อมกับพัฒนาอารยธรรมทางสังคม และวัฒนธรรม พื้นที่ของอียิปต์นั้นล้อมรอบด้วยทะเลทรายเสมือนปราการป้องกันการรุกรานจากศัตรูภายนอก นอกจากนี้ยังมีการทำเหมืองแร่ และอียิปต์ยังเป็นชนชาติแรกๆที่มีการพัฒนาการด้วยการเขียน ประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้
การบริหารอียิปต์เน้นไปทางสิ่งปลูกสร้าง และการเกษตรกรรม พร้อมกันนั้นก็มีการพัฒนาการทางทหารของอียิปต์ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ราชอาณาจักร โดยประชาชนจะให้ความเคารพกษัตริย์ หรือฟาโรห์เสมือนหนึ่งเทพเจ้า ทำให้การบริหารราชการบ้านเมืองและการควบคุมอำนาจนั้นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชาวอียิปต์โบราณไม่ได้เป็นเพียงแต่นักเกษตรกรรม และนักสร้างสรรค์อารยธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นนักคิด, นักปรัชญา ได้มาซึ่งความรู้ในศาสตร์ต่างๆมากมายตลอดการพัฒนาอารยธรรมกว่า 3,000 ปี ทั้งในด้านคณิตศาสตร์, เทคนิคการสร้างพีระมิด, วัด, โอเบลิสก์, ตัวอักษร และเทคนิคโลยีด้านกระจก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพทางด้านการแพทย์, ระบบชลประทานและการเกษตรกรรม อียิปต์ทิ้งมรดกสุดท้ายแก่อนุชนรุ่นหลังไว้คือศิลปะ และสถาปัตยกรรม ซึ่งถูกคัดลอกนำไปใช้ทั่วโลก อนุสรณ์สถานที่ต่างๆในอียิปต์ต่างดึงดูดนักท่องเที่ยว นักประพันธ์กว่าหลายศตวรรษที่ผ่านมา
ปัจจุบันมีการค้นพบวัตถุใหม่ๆในอียิปต์มากมายซึ่งกำลังตรวจสอบถึงประวัติความเป็นมา เพื่อเป็นหลักฐานให้แก่อารยธรรมอียิปต์ และเป็นหลักฐานแก่อารยธรรมของโลกต่อไปมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น