แหล่งท่องเที่ยวฮ่องกงและมาเก๊า
แหล่งท่องเที่ยวฮ่องกง
วิคตอเรีย พีค


การได้ขึ้นมาชมวิวบนยอดเขาสูงที่สุดของเกาะฮ่องกง ยอดเขาวิคตอเรีย นี้สูงจาก ระดับน้ำทะเล 552 เมตร นับว่าสูงที่สุดแล้วบนเกาะฮ่องกง แต่ไม่ใช่สูงที่สุดใน ฮ่องกงนะคะ ยอดเขาที่สูงที่สุดชื่อว่า Tai To Yan อยู่ในเขต นิวเทอร์ริทอรี่สูง 957 เมตร จากระดับน้ำทะเล รองลงมาคือ ลันเตาพีค และซันเซ็ทพีคอยู่บนเกาะลันเตา ความสูงอยู่ที่ 934เมตร และ869 เมตรตามลำดับ ส่วนวิคตอเรียสูง เป็นอันดับที่ 24 ค่ะ ถึงจะสู้เรื่องความสูงไม่ได้แต่ วิคตอเรียก็มีความโดดเด่นตรงที่มีวิวทิวทัศน์ เบื้องล่างที่สวยงามและแตกต่างจากยอดเขาอื่นๆโดยสิ้นเชิง
เมื่ออยู่บนวิคตอเรีย คุุณจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพของบรรดาตึกระฟ้า รูปทรง แปลกตาตามความเชื่อเรื่องของฮวงจุ้ยบนฝั่งเกาะฮ่องกง เรือสินค้าและเรือเฟอร์รี่ส์ แล่นข้ามอ่าววิคตอเรียและย่านความเจริญบนคาบสมุทรเกาลูน นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาในช่วงบ่ายแก่ๆและอยู่ถึงหัวค่ำเพระฉากตรงหน้าจะค่อยๆเปลี่ยนไปเมื่อแสงไฟประดับอาคารเข้ามาแทนแสงอาทิตย์ซึ่งเวลาต่อไป ดึกหน่อยก็จะมี การแสดง Symphony of Lights ที่งดงามตระการตาเลยทีเดียว
เลดี้ส์ มาร์เก็ต


ตลาดกลางแจ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง เปิดตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงห้าทุ่มครึ่ง สำหรับคนรักแฟชั่นไม่ควรพลาด รับรองว่าได้สนุกสนานกับการต่อราคากระเป๋า, เครื่องประดับ, ของเล่น, เครื่องสำอาง และของแต่งบ้านชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร้านแผงลอยต่างๆ เป็นตัวชูรสให้ย่าน ถนนตุงชอยมงก๊กคึกคักมีสีสันได้ไม่น้อย
รีพัลส์ เบย์


หาดทรายรูปจันทร์เสี้ยว หาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต และนิยมใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง มีรูปปั้นขนาดใหญ่ของเจ้าแม่กวนอิมและเจ้าแม่ทินโห่ว ซึ่งทำหน้าที่คุ้มครองชาวประมง ตระหง่านอยู่กลางสวนสวยที่ทอดยาวสู่ชายหาด สร้างสีสันด้วยคลับเฮาส์สไตล์จีนดั้งเดิม และอาคารสไตล์อาณานิคมรีพัลส์ เบย์ มากมายด้วยร้านนั่งกินลมชมทะเล เลียบชายหาด รีพัลส์ เบย์
อเวนิว ออฟ สตาร์


อนุสรณ์แห่งอัจฉริยบุคคลของวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์อเวนิวออฟสตาร์ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ตื่นตากับสิ่งสำคัญต่างๆ ซึ่งสะท้อนวงการหนัง แผ่นหินจารึกชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียง ลายพิมพ์มือดารา รูปปั้นจำลองรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกง และประติมากรรมขนาดเท่าคนจริงของบรูซ ลี ดาราหนังกังฟูผู้เป็นตำนาน ประวัติศาสตร์วงการหนัง รวมถึงร้านจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องต่างๆ
ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์


ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ดินแดนแห่งจินตนาการ อาณาจักรแห่งแฟนตาซี โลกแห่งอนาคต และหัวใจรักการผจญภัย มิคกี้เมาส์รอต้อนรับคุณสู่ดินแดนแห่งความสุขที่สุดของโลกใบนี้ พร้อมเครื่องเล่นมากมายที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียวในฮ่องกง
แหล่งท่องเที่ยวมาเก๊า
วัดอาม่า


วัดอาม่าถูกก่อตั้งขึ้นมาก่อนที่จะมีเมืองมาเก๊าซึ่งประกอบไปด้วยประตูทางเข้า ซุ้มประตูแห่งการรำลึก หอสวดมนต์ หอแห่งความเมตตา หอเจ้าแม่กวนอิม และศาลาเซิ้งเจ้าชานลิน (ศาลาพุทธ) ที่ล้วนอุทิศให้แด่เทพศักดิ์สิทธิ์องค์ต่างๆ ในสถานที่เดียวทำให้วัดอาม่าเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมจีนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากลัทธิขงจื้อ ลัทธิเต๋า พุทธศาสนา และความเชื่อพื้นบ้านต่างๆ
ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล


ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลคือด้านหน้าของโบสถ์มาแตร์เดอิที่ถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1602 – ค.ศ. 1640 ที่ถูกทำลายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1835 และซากของวิทยาลัยเซนต์ปอลที่อยู่ถัดไปจากโบสถ์ ทั้งโบสถ์มาแตร์ เดอีเดิม วิทยาลัยเซนต์ปอล และป้อมปราการเป็นสิ่งปลูกสร้างของพระนิกายเยซูอิต และเข้าใจว่าเป็น “ป้อมปราการ” ของมาเก๊า ใกล้ๆ กันนั้นคือซากโบราณสถานของวิทยาลัยเซนต์ปอลที่เป็นหลักฐานของมหาวิทยาลัยแบบตะวันตกแห่งแรกในตะวันออกไกลที่มีหลักสูตรการสอนที่ละเอียด ทุกวันนี้ด้านหน้าของซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ของแท่นบูชาให้กับเมืองนี้
ค่ายทหารมูริช


ค่ายทหารนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1874 เพื่อรับรองทหารจากเมืองกัวของประเทศอินเดียที่ถูกส่งเข้ามาเสริมกำลังตำรวจมาเก๊า ปัจจุบันคือกองบังคับบัญชาของคณะบริหารการเดินเรือ ค่ายทหารมูริชมีความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคที่ได้รับอิทธิพลจากโมกุลผสมผสานเข้าไปด้วย
จัตุรัสเซนาโด


จัตุรัสเซนาโดเป็นศูนย์รวมของชาวเมืองมาหลายศตวรรษ และยังคงเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ทุกวันนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารวุฒิสภาเก่า วัดซำไก (วันควนไท) ยังแสดงให้เห็นถึงความมีส่วนร่วมของชุมชนชาวจีนในท้องถิ่นในกิจการพลเรือนทั่วไปซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของวัฒนธรรมที่หลากหลายของชุมชนมาเก๊า จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาคารนีโอคลาสสิคสีพาสเทลที่สะท้อนบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
โบสถ์เซนต์โดมินิค


โบสถ์ที่มีความสัมพันธ์กับคณะสงฆ์พระแม่มารีแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1587 โดย 3 บาทหลวงนิกายโดมินิกันชาวสเปนที่มาจากอะคาปุลโกในเม็กซิโก และโบสถ์นี้เองที่ได้ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ A Abelha da China (“The China Bee”) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาโปรตุเกสฉบับแรกบนแผ่นดินจีนในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1822 ส่วนหอระฆังด้านหลังอาคารได้มีรการปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ในตอนนี้แสดงงานศิลปะประมาณ 300 ชิ้น
พิพิธภัณฑ์มาเก๊า
พิพิธภัณฑ์มาเก๊าเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีวัตถุหลายชิ้นที่มีคุณค่ามากทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนต่างๆ มีอยู่ในเมืองมาช้านานชั้นแรกเป็นการนำเสนอเชิงเปรียบเทียบแบบสั้นๆ ระหว่างวิธีการพัฒนาของอารยธรรมตะวันตกและอารยธรรมจีนก่อนการเดินทางมาถึงของชาวโปรตุเกสในปากแม่น้ำเพิร์ลในศตวรรษที่ 16 นอกจากนั้นยังมีการแสดงประวัติของมาเก๊า
กิจกรรมเชิงพาณิชย์ ศาสนาและวัฒนธรรมของทั้งสองอารยธรรม ขึ้นบันไดไปชั้นสองผู้เข้าชมจะมีโอกาสได้สัมผัสกับมุมมองต่างๆ ของศิลปะประชานิยมและประเพณีของมาเก๊า เช่น ชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ความบันเทิง พิธีการทางศาสนาและเทศกาลตามประเพณี ชั้นสามแสดงมาเก๊าร่วมสมัยซึ่งรวมถึงมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของชีวิตในเมือง มีการเน้นวิธีการพรรณนามาเก๊าในวรรณคดีและศิลปะต่างๆ


พิพิธภัณฑ์มาเก๊าตั้งอยู่ในป้อมปราการที่ถูกสร้างโดยผู้ที่นับถือนิกายเจซูอิตเมื่อต้นศตวรรษที่ 17 ป้อมปราการเป็นกำแพงป้องกันเมืองเมืองหลักมาช้านานที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าออกได้ ในปี ค.ศ. 1965 ป้อมปราการถูกเปลี่ยนให้เป็นสถานที่ให้บริการทางอุตุนิยมวิทยา และต่อมาได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชม ป้อมปราการที่ถูกสร้างบนเนินเขาเมาท์สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของเมืองได้ ทางด้านตะวันตกคือซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2005 ศูนย์ประวัติศาสตร์มาเก๊าถูกเข้าชื่อไว้ในบัญชีมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก ป้อมปราการและซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลเป็นอนุสาวรีย์ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของศูนย์ดังกล่าว
พิพิธภัณฑ์มาเก๊าเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1998 โดยมีชั้นใต้ดินสองชั้นและชั้นที่สามอยู่ด้านบนดาดฟ้าของป้อมปราการซึ่งเป็นที่ให้บริการทางอุตุนิยมวิทยา ลักษณะทางสถาปัตยกรรมและโครงร่างภายนอกของสถาปัตยกรรมยังคงได้รับการรักษาและอนุรักษ์ไว้
วัดเจ้าแม่กวนอิม
วัดพุทธแห่งนี้เป็นวัดของเทพเจ้าแห่งความเมตตาถูกก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 13 โดยที่อาคารในปัจจุบันถูกก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1627 วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งในมาเก๊าซึ่งมีประตูทางเข้าขนาดใหญ่ หลังคาที่เต็มไปด้วยหุ่นกระเบื้อง ตรงกลางระหว่างลานกว้างคือห้องโถงที่มีพระพุทธรูปล้ำค่า พระพุทธรูปเพื่อความอายุยืน และเจ้าแม่กวนอิมที่สวมใส่ชุดผ้าไหมและบัลลังก์ที่มีชาย (เปลี่ยนทุกปี) โดยที่มีพระพุทธรูป 18 องค์ อยู่ทั้งสองฝั่งของโต๊ะบูชา ห้องถัดไปคือโรงสวดพิธีงานศพ และม้วนรูปภาพและภาพเขียนพู่กันเจ้าแม่กวนอิม


ด้านหลังวัดเป็นสวนระเบียง หนึ่งในนั้นมีโต๊ะหินที่มีการลงนามสนธิสัญญาจีนอเมริกันฉบับแรกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1844 โดยคียิง อุปราชแห่งกวางตุ้งและคาเล็บ คุชชิง รัฐมนตรีสหรัฐอเมริกา ใกล้ๆ คือรูปปั้นพระสงฆ์หินอ่อนในศาลาที่ประดับอย่างหรูหรา และต้นไทรโบราณที่มีกิ่งก้านที่พันกันไปมาซึ่งเรียกกันวันเป็นต้นไม้คู่รัก และเป็นสัญลักษณ์ของความสื่อสัตย์ในการแต่งงาน
ในส่วนอื่นๆ ของสวนคือน้ำพุที่มีรูปร่างเหมือนภูมิประเทศจำลองของจีน ก่อไผ่ และศาลเจ้าของพระที่มรณภาพไปแล้ว มีการฉลองเทศกาลเจ้าแม่กวนอิมในวันที่ 19 ของพระจันทร์ดวงที่สอง หก เก้า และสิบเอ็ด
วัดนาช่า


วัดที่อุทิศสำหรับการสักการะนาช่าถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 โบสถ์จีนโบราณเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับซากองค์กรเจซูอิตที่สำคัญประจำภูมิภาคที่แสดงถึงตรรกะแห่งอุดมคติของชาติตะวันตกและจีน เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของวัฒนธรรมที่หลากหลายและอิสรภาพทางศาสนาของมาเก๊า
ปราการเกีย (รวมถึงโบสถ์และประภาคารเกีย)


ป้อมปราการเกียถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1622 และ 1638 ภายในเป็นที่ตั้งของหอสวดเกียที่เดิมที่ก่อตั้งโดยแม่ชีคลาริสต์ที่พำนักอยู่ที่นี่ก่อนจะไปก่อตั้งสำนักชีเซนต์แคลร์ โบสถ์แสดงถึงความกลมกลืนของวัฒนธรรมต่างๆ ของมาเก๊าด้วยเฟรสโก้ภายในหอสวดที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งของจีนและตะวันตกด้วยลักษณะเด่นของศาสนาและแรงดลใจจากเทพนิยายปกรณัม ส่วนประภาคารเกียที่ถูกสร้างเมื่อ ค.ศ. 1865 ถือเป็นประภาคารสมัยใหม่แห่งแรกที่สร้างขึ้นบนชายฝั่งจีน ทั้งนี้ปราการเกีย หอสวด และประภาคารต่างเป็นสัญลักษณ์ทางการเดินเรือ การทหาร และการสอนศาสนาของมาเก๊าในอดีต
ศูนย์ส่งเสริมศาสนาเจ้าแม่กวนอิม


จ้าแม่กวนอิมมาเก๊า เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่มีการประดิษฐาน ในลักษณะท่ายืนบนดอกบัว หันหน้าพระพักตร์ ไปทางกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน องค์เจ้าแม่กวนอิมมีความสูงประมาณ 20 เมตร เป็นรูปปั้นสีทองมีพระพักตร์ละม้ายคล้ายชาวตะวันตก ทำด้วยสัมฤทธ์พิเศษ ฐานรูปโดมเหมือนดอกบัวเป็นศูนย์ส่งเสริมศาสนาที่มีข้อมูลเกี่ยวกับพุทธศาสนา ลัทธิเต๋า และลัทธิขงจื้อ
ภายในฐานรูปปั้นจะเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งแสดงถึงประวัติความเป็นมา และวัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้นั่นเอง บริเวณนี้เป็นสถานที่ซึ่งชาวมาเก๊า นิยมมาพักผ่อน และมีถนนที่อยู่เลียบชายฝั่งใกล้องค์เจ้าแม่กวนอิม ชื่อว่า ถนน ดร. ซุนยัดเซ็น เจ้าแม่กวนอิมมาเก๊า ถือเป็นการบอกว่า ชาวมาเก๊า ยินดีกลับเข้าสู่การปกครองของในรุปแบบประเทศจีน หลังจากที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของ โปรตุเกสมายาวนานเกือบ 400 ปี องค์เจ้าแม่กวนอิม นี้ สร้างขึ้นโดยทางการโปรตุเกส เพื่อเป็นอนุสรณ์ ในโอกาส คืนเกาะมาเก๊า กลับสู่ประเทศจีน ในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1999
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น